วันศุกร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2554

Christina Aguilera










 คริสติน่า อากีเลร่า (Christina Aguilera หรือชื่อเต็ม Christina Maria Aguilera) เกิดเมื่อ 18 ธันวาคม ค.ศ. 1980 เป็นนักร้อง/นักแต่งเพลง แนวป็อบชาวอเมริกัน   คริสติน่า เป็นศิลปินสาวลูกครึ่งไอริช-เอกวาดอร์ ตอนอายุ 8 ขวบเธอมีโอกาสไปออกรายการทีวี Star Search พอ 12 ขวบ คริสติน่า อากีเลร่า ได้เป็นสมาชิกสโมสรมิกกี้ เม้าส์ ที่นำร่องมาก่อนหน้านี้ 3 คนคือ 2 หนุ่มจาก 'N Sync จัสติน ทิมเบอร์เลค และ เจซี เชสเซอร์) และ บริทนีย์ สเปียร์ส
          คริสติน่า ประสบความสำเร็จในวงการดนตรีครั้งแรกในญี่ปุ่นตอนอายุ 14 กับเพลง All I Wanna Do ที่เธอร้องคู่กับ เคอิโสะ นากานิ ปี 1997 คริสติน่า ได้ร้องเพลง Reflection ประกอบภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Mulan ปี 1999 ได้ออกอัลบั้มชุดแรก ชื่อชุด "Christina Aguilera" เพลง Genie In A Bottle ขึ้นไปครองอันดับ 1 ในอเมริกาถึง 5 สัปดาห์ ในเดือนกรกฎาคม อัลบั้ม Christina Aguilera ออกขายตามมาในเดือน และตัวอัลบั้มขึ้นถึงอันดับ 1 ในอเมริกาด้วยยอดขายอัลบั้มอีกกว่า 8 ล้านแผ่นเฉพาะที่อเมริกา นอกจากนี้อัลบั้มชุดนี้ยังมีเพลงฮิต อันดับ 1 อีก 2 เพลงคือ "What a Girl Wants" และ "Come on Over Baby (All I Want Is You)" และยังมีเพลงดังอย่าง I Turn To You ที่เป็นผลงานการแต่งเพลงของ Diane Warren


          คริสติน่า ออกอัลบั้มภาษาสเปน Mi Reflejo ออกมาในเดือนกันยายนปี 2000   มกราคม 2001 เพลง Nobody Wants To Be Lonely ที่ คริสติน่า ร้องคู่กับ ริคกี้ มาร์ติน ออกวางขายเป็นซิงเกิ้ล  ปี 2001 ตัวเธอ ร่วมกับ Lil' Kim, Mya, และ P!nk คัฟเวอร์เพลงเก่าของ Patti LaBelle ในปี 1975 เพลง "Lady Marmalade" ประกอบภาพยนตร์เรื่อง Moulin Rouge! เพลงนี้ขึ้นอันดับ 1 ในอเมริกาและได้รับรางวัลแกรมมี่สาขา "Best Pop Collaboration with Vocals"


          ปี 2002 เธอได้ออกอัลบั้มที่ 2 "Stripped" ซิงเกิ้ลแรก "Dirrty" ถูกแบนในประเทศไทยเพราะมีข้อความพูดถึงการท่องเที่ยวทางเพศของประเทศไทย แต่ประสบความสำเร็จอย่างมากจนขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษ ใน Stripped อัลบั้มชุดที่ 2 โปรดิวซ์และร่วมแต่งเพลงโดย ลินดา เพอร์รี่ อดีต Four Non Blondes ร่วมแต่งเพลง Beautiful เพลงนี้ยังได้รับรางวัลแกรมมี่สาขา Best Female Pop Vocal Performance Stripped ติดอันดับที่ 2 ในสัปดาห์แรกด้วยยอดขาย 330,000 แผ่น
          คริสติน่า ได้ร้องเพลงประกอบหนังเรื่อง Shark Tale เพลง "Car Wash" (ร่วมร้องโดย Missy Elliott) นอกจากนั้นเธอยังได้ร่วมงานกับเนลลี่ เพลง "Tilt Ya Head Back"อัลบั้มที่ 3 ‘Back To Basics’ ถือเป็นการคารวะต่อดนตรีวินเทจแจ๊ซ โซล และบลูส์จากทศวรรษที่ 1920’s - 1940’s ที่มีอิทธิพลแห่งความเป็นตัวตนของคริสติน่า ‘Back To Basics’ เป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งระหว่างคริสติน่าและโปรดิวเซอร์ Linda Perry และโปรดิวเซอร์ชื่อดังอีกหลายราย เช่น DJ Premier, Mark Ronson, Big Tank และ Kwame  มิวสิกวิดีโอเพลง ‘Ain’t No Other Man’ กำกับโดยผู้กำกับมิวสิกวิดีโอชื่อดัง Bryan Barber ขึ้นชาร์ทในอังกฤษถึงอันดับ 2 ในอเมริกาหยุดอยู่ที่อันดับ 6 กุมภาพันธ์ 2007 คริสติน่าได้รับรางวัลแกรมมี่สาขาศิลปินป็อปฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม


วันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008 อาร์ซีเอ เร็คคอร์ด ออกวางจำหน่ายอัลบั้ม Keeps Gettin' Better: A Decade of Hits อัลบั้มรวมฮิตอัลบั้มแรกของคริสตินา โดยเปิดตัวที่อันดับ 9 ในชาร์ต ในอัลบั้มนี้มีซิงเกิลนำคือ เพลง "Keep Gettin' Better" ซึ่งคริสตินาได้ขึ้นแสดงเพลงนี้ในงานประกาศผลรางวัลเอ็มทีวี วีดีโอ มิวสิก อวอร์ดส ซิงเกิลนี้ขึ้นสูงสุดในชาร์ตบิลบอร์ดที่อันดับ 7
หลังจากที่ได้ชิมลางกับอัลบั้ม Keeps Gettin' Better: A Decade of Hits แล้ว คริสติน่าได้เปิดตัวอัลบั้มที่ 4 ของเธอ Bionic ในวันที่ 8 มิ.ย. 2010 ซึ่งใช้โปรดิวเซอร์มากมายในการร่วมสร้างสรรค์อัลบั้ม Bionic นี้เช่น Tricky Stewart, Le Tigre, Switch, Ester Dean, Sam Endicott, Sia, Claude Kelly, Linda Perry, M.I.A., Santigold และ Peaches อัลบั้ม Bionic มีแนวเพลงผสมผสานระหว่าง electronic และ dance อัลบั้ม Bionic เปิดตัวยอดขายได้อันดับที่ 3 ด้วยยอดขาย 110,000 ก๊อปปี้ Bionic เปิดตัวด้วยด้วยซิงเกิ้ลแรกเพลง "Not Myself Tonight" เพลง Pop/Dance ทำอันดับบน Billboard Hot 100 สูงสุดที่ #23 ส่วนซิงเกิ้ลที่ 2 คือ "You Lost Me"

ในปี ค.ส.2009 ภาพยนตร์เรื่องแรกของคริสติน่าที่ได้แสดงนำ เริ่มถ่ายทำในเดือน พฤศจิกายน ในภาพยนตร์เพลงเรื่อง Burlesque โดยค่าย Screen Gems นอกจากจะเป็นการแสดงนำเรื่องแรกของคริสติน่าแล้ว ยังเป็นการหวนคืนจอของ แฌร์ นักร้องเจ้าของรางวัลออสการ์อีกด้วย โดยคริสติน่ารับบท "Ali Marilyn Rose" เด็กสาวจากเมืองเล็กที่เข้ามาตามหาความรักและความฝันใน ลอสแอนเจลิส และได้ทำงานใน Burlesque คลับของ Tess(แฌร์) จนเกิดเรื่องราวต่างๆมากมายขึ้น กำกับการแสดงโดย Steve Antin ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าโรงภาพยนตร์ปลายปี 2010


1 ความคิดเห็น: